ใช้ Internet อย่างไรจึงจะประหยัดเงิน (คลิ๊ก)                      

	มีอินเทอร์เน็ตแล้วเราใช้ทำอะไรกับบ้าง การใช้อินเทอร์เน็ตนั้น จริงๆแล้วมีหลายร้อยหลายพันเรื่อง แต่ที่เราใช้กันมากที่สุดมี 3 เรื่อง ดังนี้ 1.เปิดดูเว็บไซท์                                                                                                             2.รับส่งอีเมล์ 3.คุยกันด้วยตัวหนังสือ คนไทยส่วนใหญ่เมื่อติดตั้งอินเทอร์เน็ตเสร็จก็จะเปิดดูเว็บไซท์ เว็บไซท์ที่คุ้นหูคุ้นตาก็จะได้แก่ sanook.com, pantip.com, amazon.com,ebay.com, bangkok.com, siamweb.com เป็นต้น ซึ่งในตอนแรกนั้น ก็จะใช้เวลามากหน่อย ทั้งนี้เพราะยังไม่คุ้นเคยกับการใช้ศัพท์ต่างๆ  หลังจากดูเว็บไซท์ดังๆจนเกิดความชำนาญแล้ว ก็เปิดหาเว็บไซท์ที่ตนสนใจ เช่น พวกเกี่ยวกับการให้บริการก๊อปปี้โปรแกรมมาใช้ฟรีๆ พวกที่ให้ความรู้เฉพาะเจาะจง เช่น ควมรู้ทางด้านหมอ สมุนไพร สัตว์และโลกความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เกมคอมพิวเตอร์ การทำงานของระบบอินเทอร์เน็ท บางคนเปิดหาสินค้าไฮเทคต่างๆ การเปิดหาเว็บไซท์นั้นให้ความรู้ แต่มักจะได้ความรู้ที่ไม่จุใจ ไม่ตรงเป้า บางอย่างก็จะรู้สึกว่าถูกหลอก เช่น พวกที่อยากได้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ลึกๆจะหาไม่ได้ หรือแม้แต่เกมก็มักจะเล่นได้ไม่เต็มชุด แล้วก็จะมีโฆษณาออกมาบอกว่า ถ้าอยากได้เต็มชุดจะต้องเสียเงิน การเปิดดูเว็บไซท์ฟรีๆมักจะซาลงไป แต่ทุกคนจะรู้แล้วว่า เว็บไซท์ให้อะไรกับเราบ้าง แต่ก็มีปัญหาอยู่อีกว่า เวลาที่เราเปิดไปที่บางเว็บไซท์ บางทีใช้เวลานานมากกว่าจะเปิดขึ้นมาซึ่งจะทำให้เสียเวลามากในการเชื่อมต่อกับ ISP ที่เราใช้บริการอยู่ หรือบางทีเวลาเราเข้าไปใช้บริการสั่งซื้อสินค้า เราก็จะต้องใช้เวลาในการเลือกหาสินค้านานมาก ถ้าเราลองคิดดูให้ดีเราจะพบว่าในเว็บไซท์แต่ละแห่งที่ท่านเข้าไปเลือกซื้อสินค้า แต่ละแห่งจะใช้เวลาประมาณ 30นาที-1ชั่วโมง คลิ๊กไปคลิ๊กมาหลายตลบ ช่วงนั้นอาจจะถูกตักสายโทรฯไปแล้ว1-2ครั้ง ท่านจะต้องต่อสายใหม่ รวมเวลาที่ต่อสายและค่าบริการ ISP รายชั่วโมงแล้ว ก็จะเป็นเงินประมาณ 200 บาท ซึ่งเทียบกับการนั่งรถเมล์ไปซื้อสินค้าเองแล้ว การนั่งรถเมล์จะถูกกว่าเยอะ
	ขั้นตอนการท่องเว็บแบบประหยัดเงิน 1.เปิดดูเว็บไซท์ที่ต้องการแบบออนไลน์ พยายามคลิ๊กเพื่อดูหน้า(WebPage)ต่างๆที่มีข้อมูล แต่อย่าเพิ่งเสียเวลาในการอ่านรายละเอียด คลิ๊กจนหมดหน้าที่มีประโยชน์แสร็จแล้วปิดการใช้อินเทอร์เน็ต 2.เปิดอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง แต่ทำงานแบบ Offline คือไม่ต้องทำ Connection ท่านต้องใส่ชื่อเว็บไซท์ หรือเรียกดูจาก History ท่านจะทำได้เหมือนตอนแรกคือ เรียกดูหน้า(WebPage)ต่างๆได้และจะใช้เวลาอ่านเท่าไหร่ก็ได้ ตรงนี้แหละที่จะทำให้เราประหยัดเงินได้คือ ระบบอินเทอร์เน็ตนี้ จริงๆแล้วทำงานได้ 2 โหมด โหมดแรก คือ ออน์ไลน์(online) หรือเชื่อมโยงอยู่กับเครือข่ายตลอดเวลา ในขณะที่ท่านอ่านเอกสารหรือโฆษณาต่างๆนั้น ท่านต้องเสียค่าเวลาอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้บริการอินเทอร์เน็ต(ISP)อยู่ตลอดเวลา ส่วนโหมดที่สอง คือ ออฟไลน์(offline) โหมดนี้ทำงานโดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย แต่มันจะทำงานกับไฮเปอร์เท็กซ์ที่ท่านได้เรียกดูในตอนที่ทำงานออนไลน์แล้วเท่านั้น โหมดนี้ท่านไม่ต้องเสียค่าอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงท่านให้ท่านสามารถประหยัดเงินได้
	การใช้อีเมล์ อีเมล์นั้นคนส่วนใหญ่ จะส่งแค่ข้อความที่เป็นตัวอักษร มันก็เหมือนจดหมายธรรมดาๆ แต่มันสามารถรับส่งกันได้เร็ว อีกทั้งยังสามารถแนบไฟลืที่ต้องการส่งไปได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร รูปภาพหรือโปรแกรม ข้อดีอีกข้อนึงคือเราสามารถเขียนอีเมล์กี่ฉบับก็ได้แล้วส่งพร้อมกันทีเดียวหรือฉบับเดียวส่งหลายคนก็ได้  การส่งด้วยวิธีนี้จะใช้เวลาน้อยมาก เช่น ถ้าเป็นข้อความหรือตัวหนังสือ จะส่งได้เร็วประมาณ 4,000 ตัวอักษรต่อ 1 วินาที  อีเมล์หนึ่งหน้ากระดาษจะมีจำนวนตัวอักษรแค่ 1,000-2,000 ตัว อีเมล์ 10 ฉบับ จึงสามารถส่งเสร็จภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที เมื่อส่งเสร็จเราก็สามารถตัดสายการติดต่อได้ทันที  ด้วยวิธีนี้จดหมาย 10 ฉบับ จะเสียค่าส่งเพียง 4-5 บาทเท่านั้น เป็นค่าโทรศัพท์ 1 ครั้งกับค่าเวลาอินเทอร์เน็ตเพียง 10 วินาที ในทางกลับกันถ้าใครส่งอีเมล์เข้ามาให้เรามันจะใช้เวลาแค่ 1 วินาที/ฉบับ การรับอีเมล์นี้จะทำขนานไปกับการส่ง และท่านควรตัดการเชื่อมโยงกับ ISP ทันทีที่การรับส่งเสร็จ แล้วค่อยมาเปิดดูอีกครั้งในโหมดออฟไลน์ ตรงนี้แหละที่พวเรามักจะลืมคิดคือ คนส่วนใหญ่พอจะรู้ว่าการส่งอีเมล์ออกไปควรร่างและกดส่งเอาไว้ในโหมดออฟไลน์ ทั้งนี้เพราะคู่มือเค้าเขียนเอาไว้  แต่พอมาดูด้านรับอีเมล์บ้าง คนส่วนใหญ่จะเปิดดูอีเมล์และอ่านโดยละเอียดในตอนที่ออนไลน์เลย และถ้าต้องการจะตอบก็ตอบเดี๋ยวนั้นเลย  ซึ่งจะทำให้เสียค่าอินเทอร์เน็ตสูงมาก  ถ้าท่านรู้จักใช้โหมดออฟไลน์ของการทำอีเมล์ล่ะก็  จะทำให้ท่านประหยัดค่าใช้จ่ายในการออนไลน์ไปได้มากและถ้าท่านจะประหยัดกันจริงๆล่ะก็ ท่านควรเปิดรอรับและส่งอีเมล์ในตอนที่ท่านใช้อินเทอร์เน็ตเพื่องานอื่นเท่านั้น  ระบบอีเมล์ก็จะกลายเป็นตัวเกาะไปกับงานอื่นโดยไม่ต้องเสียเงินเลย
	CHAT มาถึงเรื่องของการสนทนาด้วยข้อความ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า "chat" ที่ต้องทำงานกันแบบออนไลน์ตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่มีหนทางที่จะประหยัดเงินเลย  มีคนคิดที่จะพยายามใช้เครื่องหมายหรือคำย่อ แต่ผมไม่เห็นว่ามันจะได้ผลเลย มันกลับยิ่งสร้างความสับสน เมื่อเทียบกับการคุยกันทางโทรศัพท์แล้วผมเห็นว่าไม่มีประโยชน์เลย "chat" คือสิ่งที่วัยรุ่นต้องการ ไม่ได้เป็นมากไปกว่าการโทรศัพท์คุยกัน แต่วัยรุ่นเค้าชอบเพราะว่ามันดูโก้เก๋และทันสมัยดี แต่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับผู้ปกคอรงในการเสียค่าใช้จ่ายให้กับ ISP หากท่านไม่ควบคุมให้ดีและไม่มีวิธีการอธิบายให้เข้าใจ วันรุ่นเหล่านี้จะมองไม่เห็นถึงสิ่งที่ผู้ปกครองของเค้ากำลังประสบอยู่  เพราะวัยรุ่นเหล่านี้สามารถนั่งจิ้มข้อความส่งกันได้ตลอดทั้งคืน